ជ្រុងនៃសុខភាពភ្នែក : #Lasik

តម្រៀប
Dry eyes
Dry eyes ទឹកភ្នែកដើរតួនាទីយ៉ាងសំខាន់ក្នុងការរក្សាភ្នែករបស់យើងឱ្យមានសំណើម, ធានាឱ្យឃើញច្បាស់ដោយអនុញ្ញាតឱ្យពន្លឺឆ្លងកាត់កែវភ្នែកប្រកបដោយប្រសិទ្ធភាព និងផ្គត់ផ្គង់អុកស៊ីហ្សែនចិញ្ចឹមភ្នែក។ វាក៏ជួយការពារការឆ្លងមេរោគនិងសារធាតុផ្សេងៗផងដែរ។    នៅពេលដែលភ្នែកស្ងួត, វាជាបញ្ហាទូទៅមួយដែលអាចកើតឡើងពីការផលិតទឹកភ្នែកមិនប្រក្រតីឬទឹកភ្នែកមានការហួតលឿនពេក។ វាអាចធ្វើអោយមានភាពមិនស្រណុក, ក្រហាយ, មានអារម្មណ៍ថាដូចមានអ្វីនៅក្នុងភ្នែករបស់អ្នក, ភ្នែកមានសភាពក្រហម, រោយ, មើលឃើញព្រិលៗដែលទទួលភាពប្រសើរជាមួយការព្រិចភ្នែក, ឬសូម្បីតែមានអារម្មណ៍ថារោយភ្នែក។ ហេតុផលដែលមានភ្នែកស្ងួតអាចមានការប្រែប្រួលនៅពេលកាន់តែចាស់ឬជាស្រ្ដី (យេស៎, យើងងាយនឹងរងនូវភ្នែកស្ងួត) ការអាលាក់ហ្សីជាមួយថ្នាំ, ការចំណាយជាច្រើនពេលទៅលើ Screens, នៅទីកន្លែងដែលមានដី ផ្សែង ឬ មានខ្យល់ខ្លាំងនិងមានពន្លឺច្រើន, រួមបញ្ចូលទាំងអស់។    ប៉ុន្ដែមានដំណឹងល្អនោះគឺជាពិធីនៃការព្យាបាលភ្នែកស្ងួត:   ការចៀសឆ្ងាយពីអ្វីដែលអាចធ្វើអោយវាកាន់តែអាក្រក់ដូចជាខ្យល់ខ្លាំងនិងធូលីដីដោយគ្រាន់តែពាក់វែនតានិងការការពារភ្នែក។ ចងចាំថាត្រូវសំរាកឬព្រិចភ្នែកអោយបានញឹកញាប់ ជាពិសេសនៅពេលអ្នកជាប់ជាមួយ Screen ខណៈណាមួយ។  អ្នកទទួលបាននូវថ្នាំបណ្ដក់ភ្នែកដែលហៅថាទឹកភ្នែកសុប្បនិមិត្ត។ មានពីប្រភេទគឺសម្រាប់ពេលថ្ងៃ (ទឹកច្រើន) និងពេលយប់ (ក្រាស់បន្ដិច) ដែលត្រូវប្រើអាស្រ័យទៅលើស្ថានភាពភ្នែកស្ងួតរបស់អ្នក។  ពេលខ្លះពេទ្យរបស់អ្នកអាចនែនាំថ្នាំបណ្ដក់ភ្នែកពិសេសដែលជំរុញអោយភ្នែករបស់អ្នកបង្កើតទឹកភ្នែកបានច្រើន។  ផ្ដល់ការព្យាបាលភ្នែករបស់អ្នកជាមួយក្រណាត់ស្អាតហើយក្ដៅឧន្ឌៗ រួចស្អំលើភ្នែកដើម្បីជូយអោយមានអារម្មណ៍ល្អប្រសើរ។ ប្រសិនបើភ្នែកស្ងួតកាន់តែខ្លាំងហើយមិនប្រសើរឡើង ការជជែកជាមួយគ្រូពេទ្យភ្នែកគឺជារឿងល្អ។   សរុបមក ភ្នែកស្ងួតអាចជាបញ្ហារំខានមួយ ប៉ុន្តែមានដំណោះស្រាយនៅទីនោះ។ វាជារឿងសំខាន់ក្នុងការថែរក្សាភ្នែករបស់អ្នកឱ្យបានល្អ ជាពិសេសនៅពេលដែលមានសភាពស្ងួតនៅខាងក្រៅ (អាកាសធាតុស្ងួត)។ ប្រសិនបើអ្នកសង្ស័យថាអ្នកមានបញ្ហាភ្នែកស្ងួត ការជជែកជាមួយអ្នកជំនាញផ្នែកថែរក្សាភ្នែកគឺជាទង្វើដ៏ឆ្លាតវៃ។
អាន​បន្ថែម
Laser Vision
อย่าให้ปัญหาสายตาสั้นทำให้ชีวิตของคุณยุ่งยาก!
หลายคนมีปัญหาสายตาสั้น ทำให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่ มองเห็นภาพไกล ๆ ไม่ชัด มองเห็นเป็นภาพเบลอ ซึ่งสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่มีค่าสายตาสั้นสูงมาก จนทำให้ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์แทบจะตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นการเพิ่มอุปกรณ์จำเป็นในการดำรงชีวิตและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันอีกด้วย โดยเฉพาะคนที่สายตาสั้นและต้องใส่คอนแทคเลนส์ยังต้องเพิ่มเรื่องของการดูแลความสะอาด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงตาติดเชื้อและอาจนำไปสู่อันตรายร้ายแรงต่อดวงตาอีกด้วย   ทั้งนี้ทั้งนั้นสายตาสั้นอาจไม่ใช่แค่ปัญหาที่สร้างความรำคาญ หรือทำให้ขาดความคล่องตัวในการดำเนินชีวิตเพียงแค่นั้น แต่ยังส่งผลกระทบกับชีวิตได้อีกหลายด้าน ทั้งด้านสุขภาพ ด้านการเงิน หรือแม้กระทั่งยังอาจเป็นตัวกำหนดอาชีพในอนาคตเราได้อีกด้วย ดังนั้นหากไม่อยากปล่อยให้เรื่องสายตาสั้นเป็นปัญหากวนใจ ควรหาทางแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ   ผลกระทบด้านต่าง ๆ ที่เกิดจากสายตาสั้น ด้านสุขภาพ หลายคนยังไม่ทราบว่าหากใครที่มีสายตาสั้นมาก ๆ ในอนาคตอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในบริเวณดวงตาได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อม จอตาลอก จอตาฉีกขาด หรือวุ้นในตาเสื่อม ซึ่งในบางกรณีอาจรุนแรงถึงขึ้นทำทำให้สูญเสียการมองเห็นได้เลย   ด้านสังคมและการดำเนินชีวิตประจำวัน สายตาสั้นทำให้ขาดความคล่องตัวในการดำเนินชีวิตและการทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น ในวัยเรียนอาจประสบปัญหามองกระดานเรียนไม่ชัด ทำให้มีปัญหาการเรียนสะดุดได้ เมื่อโตขึ้นการทำกิจกรรมบางอย่างก็ต้องใช้สายตาเป็นส่วนสำคัญ เช่น การขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถมอเตอร์ไซต์และอื่น ๆ ดังนั้นเพื่อความคล่องตัวและความปลอดภัยจึงต้องใส่แว่นสายตาและคอนแทคเลนส์ และนำมาสู่ผลกระทบในข้อถัดไป   ด้านการเงิน เมื่อเริ่มรู้ว่าตนเองมีค่าสายตาที่ผิดปกติ ควรตรวจวัดค่าสายตาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงทำการตัดแว่นหรือหาซื้อคอนแทคเลนส์ตามค่าสายตาของตนเอง เพื่อปรับให้มีการมองเห็นที่เหมาะสม ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา ต่างจากคนที่มีค่าสายตาปกติ และค่าสายตาเป็นอะไรที่ไม่คงที เมื่ออายุมากขึ้นค่าสายตาสั้นก็อาจสูงขึ้นตามไปด้วยทำให้ต้องเปลี่ยนเลนส์แว่นหรือคอนแทคเลนส์ใหม่ ๆ ทุกครั้งที่ค่าสายตาเปลี่ยน ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นในชีวิตประจำวัน   ด้านการประกอบอาชีพ รู้หรือไม่ว่าบางอาชีพมีการกำหนดค่าสายตาสูงสุดที่สามารถประกอบอาชีพนั้น ๆ ได้ด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นอาชีพที่ต้องใช้สายตาเพื่อความละเอียดแม่นยำเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ของทั้งตนเองและผู้อื่น อย่างเช่น อาชีพนักบินถูกกำหนดห้ามสายตาสั้นเกิน -3.00D ห้ามสายตาเอียงเกิน -1.50D ส่วนนายสิบ นายร้อย ตำรวจและทหาร ต้องมีสายตาปกติและอ่าน snellen chart ได้หกต่อหก   แก้ไขสายตาสั้น ให้หมดความกังวลใจ ด้วยการทำเลสิกกับ LASERVISION เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินชีวิต และสำหรับบางคนที่อยากทำอาชีพได้แบบที่หวังโดยไม่ต้องกังวลใจกับเรื่องค่าสายตา หนทางเดียวที่จะทำให้ค่าสายตาเป็นปกติ คือ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขค่าสายตา โดยที่ในปัจจุบันการผ่าตัดแก้ไขค่าสายตานั้นนิยมทำด้วยการเลเซอร์ ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น ที่สำคัญคือแผลผ่าเล็กไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมือนกับการที่ศูนย์รักษาสายตานานาชาติ เลเซอร์วิชั่น เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่นำเอาเทคโนโลยี NanoRelex® เข้ามาใช้ในการผ่าตัดแก้ไขค่าสายตา   โดย NanoRelex® เป็นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูง ในการปรับแต่งเนื้อเยื่อภายในชั้น Stroma ของกระจกตา ด้วยการคำนวณชิ้นเนื้อกระจกตา เป็นรูป 3 มิติ ที่เรียกว่า Lenticule ตามค่าสายตาของแต่ละบุคคล แล้วทำการนำ Lenticule ออกผ่านทางแผลขนาดเล็กประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ใช้เวลาผ่าตัดน้อย ลดอาการตาแห้งได้ดี ที่สำคัญคือ หลังการผ่าตัดกระจกตาจะยังคงรูปร่างและความแข็งแรงอยู่ ทำให้คุณมั่นใจในการใช้ชีวิตด้วยการมองเห็นที่ดีขึ้น และไม่มีปัญหากวนใจอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง
Laser Vision
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำ LASIK ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้
การทำ LASIK นับเป็นหนึ่งทางเลือกฟื้นฟูสายตาให้กลับมามีความคมชัด มองเห็นชัดเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเวลาใส่คอนแทคเลนส์ให้วุ่นวาย แต่เชื่อว่าหลายคนคงยังมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับการทำ LASIK เนื่องจากความกลัวและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำเลสิกที่เคยได้รับรู้กันมา บทความนี้ Laser Vision จึงจะมาช่วยอธิบายเคลียร์ชัดในทุกประเด็น เพื่อเป็นความรู้ให้กับใครที่กำลังพิจารณา กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะทำเลสิกกันอยู่ ●       ทุกคนสามารถทำ LASIK เพื่อรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ หลายคนอาจจะคิดว่า ใคร ๆ ก็สามารถทำ LASIK เพื่อแก้ไขความผิดปกติของค่าสายตาได้ทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะทำ LASIK ได้ เนื่องจากการทำ LASIK จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป และมีค่าสายตาที่คงที่มาตลอด 1 ปี ไม่เปลี่ยนแปลงเกิน 100 จึงจะสามารถทำ LASIK ได้ มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหาสายตาคลาดเคลื่อนในอนาคตได้ง่าย อีกทั้งผู้ป่วยในกลุ่มโรคบางโรคก็ไม่สามารถทำเลสิกได้เช่นกัน อาทิ ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ผู้ป่วยจิตเวชหรือมีปัญหาทางจิตใจ ผู้ป่วยโรค SLE โรคข้ออักเสบมารูตอยด์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นก่อนการทำเลสิกทุกครั้ง ผู้เข้ารับการรักษาจึงต้องตรวจวัดค่าสายตาที่แน่นอน รวมถึงเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยก่อนเสมอ ●       การทำ LASIK ใช้ใบมีดจริง ๆ ในการแยกชั้นกระจกตา การทำ LASIK แบบดั้งเดิมจะใช้ใบมีด Microkeratome ซึ่งเป็นใบมีดขนาดเล็กที่ออกแบบมาให้มีความโค้งเข้ากับลูกตาของคนเรา แต่ในปัจจุบัน วิธีการทำ LASIK ได้มีการพัฒนาขึ้นมามากมายหลายวิธี โดยวิธีการทำ LASIK ใหม่ ๆ จะเป็นแบบการทำเลสิกแบบไร้ใบมีด จะใช้เลเซอร์พลังงานสูงช่วยในการแยกชั้นสายตาแทนการใช้ใบมีดแบบเก่า มีความแม่นยำสูง รวดเร็วและก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับดวงตาน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการรักษาด้วยใบมีด ●       การทำ LASIK สามารถรักษาอาการตาบอดสีได้ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ผู้ที่มีอาการตาบอดสีสามารถเข้ารับการทำ LASIK ได้ จนทำให้ใครหลายคนอาจมีความเชื่อผิด ๆ ว่าการทำเลสิกสามารถใช้รักษาอาการตาบอดสีได้เหมือนกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ผิด เพราะการทำเลสิกเป็นเพียงการรักษาค่าสายตาที่ผิดปกติ อย่างภาวะสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียงเท่านั้น ไม่สามารถรักษาอาการตาบอดสีได้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ●       ทุกค่าสายตาสั้น สามารถทำ LASIK ได้หมด อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ใช่ทุกคนสามารถทำ LASIK ได้ และไม่ใช่ทุกค่าสายตาผิดปกติจะสามารถรักษาด้วยการทำเลสิกได้เหมือนกัน โดยปัจจุบัน การ LASIK มีหลายวิธี แต่ละวิธีต่างมีความเหมาะสมในการใช้รักษาระดับค่าสายตาได้ไม่เท่ากัน ดังนี้ การทำ LASIK ดั้งเดิม (ใช้ใบมีด Microkeratome) สามารถใช้รักษาค่าสายตาผิดปกติ ได้ทั้งกรณีสายตาสั้นไม่เกิน -1000 สายตายาวไม่เกิน -500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 การทำ PRK รักษาค่าสายตาผิดปกติ ได้ทั้งกรณีสายตาสั้นไม่เกิน -600 สายตายาวไม่เกิน -500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 การทำ FemtoLASIK รักษาค่าสายตาผิดปกติ ได้ทั้งกรณีสายตาสั้นไม่เกิน -1000 สายตายาวไม่เกิน -500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 และการทำ NanoRelex รักษาได้เฉพาะผู้ที่มีสายตาสั้นตั้งแต่ -50 ถึง -1000 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 ทั้งนี้นี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยเพิ่มเติม ●       เมื่อทำ LASIK แล้วสายตาจะดีตลอดไปเลย สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนมักเข้าใจผิดกันอยู่เสมอ คือการทำ LASIK เป็นการแก้ไขความผิดปกติของสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียงแบบถาวร ซึ่งข้อบอกว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากเมื่อรักษาด้วยการทำ LASIK แล้วค่าสายตาของเราจะกลับไปเหมือนสายตาของคนทั่วไป คือจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไปตามช่วงอายุของชีวิต เหมือนอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายที่เสื่อมไปตามกาลเวลาเช่นกัน สามารถเกิดภาวะสายตาสั้น ภาวะสายตายาว ภาวะสายตาเอียง เกิดขึ้นได้ในอนาคตเหมือนเดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้สายตา และการดูแลรักษาบำรุงสายตาด้วย ฟื้นฟูการมองเห็นให้คมชัด ปลอดภัยได้อย่างไร้กังวล ด้วยการรักษาที่ทันสมัยจาก Laser Vision การทำเลสิกเพื่อฟื้นฟูสายตาให้กลับมามองเห็นชัดแจ๋วและมีความปลอดภัย จำเป็นต้องมีจักษุแพทย์คอยให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด โดย Laser Vision International LASIK Center เป็นศูนย์รักษาสายตาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี มีทีมแพทย์เฉพาะด้านและเครื่องมืออันทันสมัยได้มาตรฐานสากล สามารถให้การช่วยเหลือในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้หมด ทั้งสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาว และสายตายาวตามอายุ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับดวงตาทุกประเภท ทางเราก็มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยดูแลรักษาได้อย่างปลอดภัย รับรองว่าคุณหมอจะช่วยอธิบายถึงแผนการทำเลสิกหรือแนวทางการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล พร้อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณนั่นเอง ปรึกษาเพิ่มเติม โทร 02-511-2111
Laser Vision
สายตายาวแต่กำเนิด VS สายตายาวตามวัย มีความแตกต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจจะคิดว่าสายตายาวมักพบได้บ่อยในกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่เชื่อหรือไม่ว่าสายตายาวสามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กวัยแรกเกิดเช่นเดียวกัน ซึ่งเรียกว่าภาวะสายตายาวแต่กำเนิด (Hyperodia) เนื่องจากกระบอกตามีขนาดสั้น และกระจกตามีลักษณะโค้งน้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดการหักเหของแสงน้อยลง ส่งผลให้แสงไปตกด้านหลังของจอประสาทตา เด็กวัยแรกเกิดจึงต้องเพ่งในทุกระยะสายตา ทั้งระยะใกล้และระยะไกลอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยความที่กล้ามเนื้อตาในวัยเด็กยังมีความยืดหยุ่นสูง จึงทำให้เด็กมักไม่รู้ตัวว่ามีภาวะสายตายาว แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อตาจะค่อย ๆ เสื่อมลง ภาวะสายตายาวก็จะเริ่มแสดงอาการออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น การมองเห็นก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ภาวะสายตายาวแต่กำเนิด ต่างกับ สายตายาวตามวัย อย่างไร? สายตายาวตามวัย (Presbyopia) ถือเป็นความผิดปกติของการมองเห็นที่เกิดขึ้นกับทุกคน เนื่องจากเลนส์ตาของเรายืดหยุ่นได้น้อยลง และกล้ามเนื้อตาเสื่อมสภาพลงไปตามวัยที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการมองเห็นระยะใกล้ จึงสามารถเกิดร่วมได้กับผู้ที่มีภาวะสายตาสั้น สายตายาวแต่กำเนิด และสายตาเอียงได้ ในขณะที่ภาวะสายตายาวแต่กำเนิดจะเกิดจากความผิดปกติของกระบอกตาหรือกระจกตาตั้งแต่แรกเกิดนั่นเอง อาการของสายตายาวแต่กำเนิด ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในแต่ละช่วงอายุ ●       ก่อนวัยเรียน เมื่อเด็กเล็กอายุมากขึ้นจนถึงวัยที่ต้องใช้กล้ามเนื้อตาในการเพ่งมากกว่าปกติ อาจส่งผลให้มีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการตาเหล่ ตาเข เมื่อมองใกล้หรือเวลาอ่านหนังสือ ●       วัยเรียน ถึงวัยที่อาการมองเห็นเริ่มแสดงผลชัดเจนมากขึ้นแล้ว เด็กจะเริ่มมองเห็นไม่ชัดในระยะใกล้ แต่สำหรับระยะสายตาไกลยังคงชัดเจนอยู่ วิธีที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ คือเด็กที่มีสายตายาวจะไม่สามารถอ่านหนังสือเป็นเวลานาน ๆ ได้ ●       วัยทำงาน นับเป็นช่วงวัยที่อายุเริ่มมากขึ้นแล้ว กล้ามเนื้อตาและประสาทตาต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง เมื่อทำงานหรือเพ่งตาระยะใกล้เป็นเวลานาน จึงเริ่มเกิดอาการตาล้าเร็วกว่าคนทั่วไป ●       วัยอายุ 40 ปีขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่อาการสายตายาวแสดงผลชัดเจนที่สุด การมองเห็นจะไม่ชัดอีกต่อไปทั้งในระยะใกล้และระยะไกล จำเป็นต้องสวมแว่นมองใกล้ช่วยในการอ่านหนังสือก่อนคนอื่น วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือสวมใส่แว่นสายตาที่มีเลนส์นูน เพื่อหักเหแสงให้ตกลงบนจอประสาทตา ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการของสายตายาวแต่กำเนิดข้างต้น คืออาการเบื้องต้นสำหรับผู้ที่มีค่าสายตายาวไม่มากเท่านั้น เด็กบางคนที่มีค่าสายตายาวน้อย อาจมีหรือไม่มีอาการเลยก็ได้ แต่ในกรณีที่มีค่าสายตายาวแต่กำเนิดสูง ๆ อาการก็อาจหนักขึ้นได้เช่นกัน โดยอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดตา ตาหยี หรือแม้กระทั่งการมองเห็นจะเป็นภาพมัว โดยเฉพาะการมองเห็นวัตถุระยะใกล้ด้วย หากเป็นเช่นนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมจะส่งผลดีต่อลูกน้อยที่สุด แนวทางการรักษาภาวะสายตายาวแต่กำเนิด ที่ปลอดภัย อาการหายเป็นปลิดทิ้ง ●       การทำ FemtoLASIK การทำ FemtoLASIK (การทำเลสิกแบบไร้ใบมีด) เป็นการรักษาภาวะสายตายาวแต่กำเนิด เพื่อผ่าตัดแก้ไขปรับความโค้งของกระจกตา ด้วยเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับศักยภาพความสามารถในการแยกชั้นกระจกตาขั้นสูง แพทย์สามารถกำหนดระดับความหนาของกระจกตาตามที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัย โดยใช้เฟมโตเซเคินเลเซอร์ สร้างฝากระจกตาแทนการใช้ใบมีด ผลลัพธ์ที่ได้คือฝากระจกตาหนาเท่ากันทั้งแผ่น สามารถทำขอบกระจกตาเป็นมุมเข้าร่องกับเนื้อกระจกตาข้างเคียง ลดโอกาสเคลื่อนของฝากระจกตาได้ ●       การทำ LASIK ปกติแล้วการทำเลสิกจะใช้รักษาสายตาสั้น แต่สามารถรักษาภาวะสายตายาวแต่กำเนิดได้เช่นกัน โดยการผ่าตัดสายตา เปิดฝากระจกตาด้วยเครื่องมือใบมีดติดมอเตอร์ ในการแยกชั้นกระจกตา และสร้างฝากระจกตาให้มีความหนาที่เหมาะสม จากนั้นจึงใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ เพื่อปรับความโค้งของผิวกระจกตาให้ได้ค่าสายตาที่ต้องการแก้ไข ●       การทำ PRK การรักษาภาวะสายตายาวแต่กำเนิดอีกวิธีหนึ่งที่คล้ายกับการทำเลสิก โดยการเปิดกระจกตาชั้นนอกสุดออก แล้วใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (เลเซอร์เย็น) ยิงลงบนเนื้อกระจกตา เพื่อปรับความโค้งที่ผิวกระจกตา ก่อนปิดแผลที่ผิวกระจกตาด้วยเลนส์สัมผัสคุณภาพพรีเมี่ยม สำหรับลดอาการระคายเคือง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากระจกตาบาง ไม่เหมาะกับเด็กวัยเล็ก เพราะต้องใช้ระยะเวลารักษานานกว่าการทำเลสิก Laser Vision ทุกการรักษาภาวะสายตายาวแต่กำเนิด หรือสายตายาวตามวัย เป็นไปได้จริง   Laser Vision International LASIK Center ศูนย์รักษาสายตา เลเซอร์วิชั่น ผู้เชี่ยวชาญด้านรักษาสายตาสั้น สายตายาว เอียง และโรคตาทุกชนิดแบบครบวงจร ตั้งแต่ปัญหาโรคตาทั่วไป สายตาสั้น สายตายาว ภาวะสายตายาวแต่กำเนิด ไปจนถึงการผ่าตัดที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทางในแต่ละด้าน เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและดีที่สุดของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสามารถให้บริการรักษาได้ทั้งการทำ FemtoLasik การทำ LASIK และการทำ PRK คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยที่ภาวะสายตายาวแต่กำเนิด เข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ แพทย์จะช่วยวินิจฉัยอาการและแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร 02-511-2111
Laser Vision
NanoRelex และ LASIK วิธีรักษาภาวะสายตาผิดปกติทั้งสองวิธี มีความแตกต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบัน ทางเลือกในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยการผ่าตัดในประเทศไทยมีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งในแต่ละวิธีต่างมีความเหมาะสมต่อการรักษาปัญหาทางด้านสายตาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษาภาวะสายตาที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูงก็คงหนีไม่พ้น การผ่าตัดแก้ปัญหาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยวิธีการทำ LASIK และวิธีการผ่าตัดรูปแบบใหม่ NanoRelex บางคนอาจจะเคยได้ยินผ่าน ๆ กันมาบ้างแล้ว แต่ในบทความนี้ Laser Vision จะช่วยอธิบายให้เข้าใจกันมากขึ้นเอง ภาวะสายตาผิดปกติ คืออะไรและมีกี่ประเภท? ก่อนที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติยอดนิยม อย่างการทำ LASIK และวิธีการรักษาแบบใหม่ NanoRelex ทั้งสองวิธีมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เราอยากให้ทุกคนทราบกันเสียก่อนว่า อาการภาวะสายตาผิดปกติ คืออะไร? ภาวะสายตาผิดปกติ คือภาวะเกี่ยวกับปัญหาการมองเห็นทางสายตาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยปกติการมองเห็นของคนเรา เกิดจากการที่แสงไปตกกระทบที่บริเวณผิวกระจกตา แล้วเกิดการหักเหโฟกัสไปที่จอประสาทตาพอดี ภาพที่เห็นจึงมีความคมชัดทั้งในระยะใกล้และระยะไกล ถือเป็นภาวะสายตาทั่วไป แต่หากความโค้งของกระจกตา หรือความยาวของลูกตามากหรือน้อยจนเกินไป จะทำให้ภาพที่ได้ไม่คมชัด เรียกว่าภาวะสายตาผิดปกติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ภาวะสายตาสั้น ภาวะสายตายาว ภาวะสายตาเอียง และภาวะสายตายาวในผู้สูงอายุ LASIK คือวิธีการรักษาอย่างไร? การรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกประเภท ด้วยการผ่าตัดโดยใช้ใบมีด Microkeratome แยกชั้นกระจกตาออกให้ได้ความหนาประมาณ 100 ถึง 120 ไมครอน เปิดกระจกตาทิ้งไว้ (ประมาณ 3 ถึง 5 นาที) จากนั้นจึงใช้ Excimer Laser ยิงไปลงบริเวณกระจกตา เพื่อช่วยในการปรับความโค้งกระจกตาให้เหมาะสม ให้ได้ค่าสายตาตามที่ต้องการแก้ไข แล้วจึงปิดกระจกตากลับเข้าที่เดิม ซึ่งไม่ต้องเย็บแผลปิด เพราะชั้นกระจกตาจะสมานเข้ากันเองตามธรรมชาติในภายหลัง NanoRelex คือวิธีการรักษาอย่างไร? NanoRelex คือทางเลือกใหม่ในการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการทำเลสิก ได้แก่ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูงในการปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตา และนำเนื้อเยื่อกระจกตาส่วนเกินออกมาผ่านทางแผลขนาดเล็กเพียงแค่ 2 ถึง 3 มิลลิเมตร เพื่อปรับความโค้งกระจกตาให้เหมาะสม เนื่องจากวิธี NanoRelex นั้นเป็นการทำเลสิกไร้ใบมีดแบบแผลเล็ก ทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกเบาสบายตาขณะผ่าตัด มีการรบกวนกระจกตาน้อย กระจกตาหลังผ่าตัดจึงมีความแข็งแรง เป็นวิธีการรักษาที่พัฒนาขึ้นมาใหม่จากการทำเลสิกอีกที เปรียบเทียบข้อแตกต่างของการทำ LASIK และ NanoRelex ให้เห็นภาพกันชัดเจนมากขึ้น การทำ LASIK ●       ใช้ใบมีด Microkeratome ที่มีความคมในการผ่าเปิดชั้นกระจกตา ขนาดแผลหลังผ่าตัดจะมีความยาวประมาณ 20 มิลลิเมตร ●       สามารถรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกประเภท เพียงแต่มีข้อจำกัด คือคนที่มีกระจกตาบางหรือไม่สม่ำเสมอ จะไม่สามารถทำเลสิกได้ ●       มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งมากกว่าวิธีการรักษา NanoRelex ●       ค่าใช้จ่ายในการรักษาถูกกว่าวิธีการรักษา NanoRelex แต่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า ●       หลังทำ LASIK ต้องปิดฝาครอบตา 1 คืน เพื่อป้องกันการขยี้ตา ●       ต้องใช้เวลาในปรับค่าสายตาประมาณ 1 ถึง 4 สัปดาห์ ค่าสายตาจึงจะกลับมาเห็นได้ชัด การทำ NanoRelex ●       วิธีการทำเลสิกแบบใหม่ที่พัฒนามาจากการทำ LASIK ดั้งเดิม เป็นการทำเลสิกไร้ใบมีด ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ Femtosecond Laser ที่มีความแม่นยำสูง ขนาดแผลหลังทำจึงมีความยาวแค่ 3 ถึง 5 มิลลิเมตร ●       ไม่มีการแยกชั้นกระจกตาด้วยใบมีด จึงไม่มีความเสี่ยงในการเกิดปัญหากระจกตาเคลื่อนตามมาในภายหลัง ●       แทบไม่มีอาการเคืองตาหรือปวดตาหลังทำเลย ●       โอกาสเกิดภาวะตาแห้งน้อยมาก ●       สามารถใช้รักษาเพื่อลดภาวะแสงฟุ้งตอนกลางคืนได้ด้วย ●       ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงกว่าวิธีการทำ LASIK ●       NanoRelex มีข้อจำกัด สามารถใช้รักษาภาวะสายผิดปกติ ได้เฉพาะแค่ภาวะสายตาสั้น และสายตาเอียงเท่านั้น ●       ต้องใช้เวลาในปรับค่าสายตาประมาณ 1 ถึง 4 สัปดาห์ ค่าสายตาจึงจะกลับมาเห็นได้ชัด วิธีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติทั้งสองวิธีต่างมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ภาวะค่าสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียงที่สามารถรักษาได้ ระยะเวลาในการพักฟื้น ค่าใช้จ่าย รวมถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพตาของแต่ละบุคคลในการรักษา ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาภาวะสายตาผิดปกติ ทุกคนจึงควรพบจักษุแพทย์ เพื่อเข้ารับการประเมินและรับคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับแนวทางในการรักษาที่เหมาะกับตัวคุณโดยเฉพาะ ภาวะสายตาผิดปกติ รักษาให้หายได้อย่างปลอดภัย ที่ Laser Vision   ทุกปัญหาภาวะสายตาผิดปกติสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ เพียงคุณปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการเข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคล โดย Laser Vision International LASIK Center เป็นศูนย์รักษาสายตาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี พร้อมด้วยทีมแพทย์เฉพาะด้านและเครื่องมืออันทันสมัยได้มาตรฐานสากล สามารถดำเนินการรักษาภาวะสายตาผิดปกติได้ทุกประเภท เรามีความชำนาญในทุกแนวทางการรักษาปัญหาด้านสายตา ทั้งการทำ LASIK และการทำ NanoRelex อีกทั้งเรายังเป็นผู้บุกเบิกวิธีการรักษา NanoRelex แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย ปรึกษาเพิ่มเติม โทร 02-511-211
Laser Vision
เตรียมตัวก่อนทำเลสิก NanoRelex ต้องทำอย่างไรบ้าง
เตรียมตัวก่อนทำเลสิก NanoRelex ต้องทำอย่างไรบ้าง ใครที่กำลังสนใจทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex ของทาง Laser Vision อยู่ละก็ทางมาอ่านบทความนี้ได้เลย    เพราะ Laser Vision ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกมาให้คุณไว้แล้ว มาดูสิว่าต้องทำอย่างไรบ้าง   อย่างแรก เดินทางมาที่คลินิก Laser Vision เพื่อพบ และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยดวงตา สุขภาพตาว่ามีลักษณะแบบไหน ปัจจุบันสายตาคุณเป็นอย่างไร เพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงจะได้สอบถามข้อมูลต่าง ๆ  และทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการทำเลสิกทั้งหมดจากแพทย์ได้เลย   ต่อมาการเตรียมตัวก่อนวันมาทำเลสิก NanoRelex ที่เป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักผ่อนก่อนวันทำเลสิกที่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนวันที่มาทำเลสิก เพื่อให้สายตาได้พักผ่อนเต็มที่ ต่อมางดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 7 - 14 วันก่อนวันทำเลสิก งดดื่มแอลกอฮอล์ งดฉีดน้ำหอมและก็ไม่ควรแต่งหน้าในวันที่มาทำเลสิกด้วยนะ และอื่นๆ ตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ   อย่างที่สาม ไม่ควรขับรถยนต์มาเอง ควรพาคนในครอบครัว ญาติ เพื่อน ที่สามารถขับรถยนต์มาด้วย เนื่องจากหลังทำเลสิกเสร็จสายตาของคุณจะยังไม่พร้อมใช้งานได้ทันที ต้องมีการใส่ที่ครอบดวงตาเพื่อป้องกันเชื้อโรค ฝุ่น แสงแดด รวมถึงมือของเราที่อาจจะไปสัมผัสโดนบริเวณรอบดวงตานั้นเอง ดังนั้นจึงทำให้ไม่สามารถขับรถยนต์กลับบ้านเองได้     Laser Vision เชื่อว่าเพื่อนๆ เข้าใจเรื่องการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกแบบ NanoRelex และบอกเลยว่าไม่ยาก ไม่วุ่นวายแน่นอน หากมีข้อมูล หรือคำถามตรงไหนสามารถโทรสอบถาม Laser Vision ได้เลยนะ      
Laser Vision
ทำไมทุกคนถึงเลือก NanoRelex
ทำไมทุกคนถึงเลือก NanoRelex สำหรับคนที่กำลังมองหาการทำเลสิกอยู่ตอนนี้ มักจะเจอโพสต์เกี่ยวกับ NanoRelex ขึ้นมาในหน้า Facebook หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ แน่เลย โดยเฉพาะ NanoRelex ของ Laser Vision    ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้คนมากมายไม่ว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียง คนทั่วไป  จนหลายคนเกิดสงสัยว่า ทำไมทุกคนถึงทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex ของ Laser Vision กันนะ วันนี้เราจะบอกทุกคนให้รู้เอง   1.NanoRelex นั้นมีประสิทธิภาพ และ คุณภาพสูง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำงานในการผ่าตัด เนื่องจากเทคโนโลยีตัวนี้มีความแม่นยำ และความปลอดภัยที่สูงมาก ลดระยะเวลาและช่วยให้คุณมองเห็นโลกที่สดใสขึ้นเพียงไม่กี่วินาที   2.การฟื้นฟูที่รวดเร็วหลังจากทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex  ช่วยให้กระบวนการฟื้นตาจากการทำเลสิกเป็นเรื่องรวดเร็วมากขึ้นในระยะเวลาเพียง 1 วัน ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้รับบริการสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ทำให้การทำเลสิกแบบ NanoRelex ช่วยเรื่องของการประหยัดเวลาได้อย่างดีเยี่ยม   3.ความคุ้มค่าของสุขภาพตา ซึ่งที่ผ่านมาผู้รับบริการมองว่าการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex มีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า และสมเหตุสมผลมากๆ เมื่อเทียบกับการรักษาตาอื่น ๆ ในระยะยาว   4.สุดท้าย… ผู้ที่เข้ามารับบริการไม่ต้องใช้แว่นตาและคอนแทคเลนส์อีกต่อไป โดยข้อ นี้ถือเป็นเหตุผลหลักหลายคนเลือกการทำเลสิกด้วยเทคโนโลยี NanoRelex เพื่อกลับมามีสายตาที่ดีโดยไม่ต้องใช้แว่นตา และคอนแทคเลนส์อีกต่อไป   ดังนั้นหากใครกำลังพิจารณาเรื่องการทำเลสิกอยู่ตอนนี้ Laser Vision แนะนำว่าควรทำ! เพราะเรื่องสุขภาพตาเรานั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการลงทุน  โดนเฉพาะ NanoRelex ของ Laser vision ที่มีเพียบพร้อมด้านเทคโนโลยีการทำเลสิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การบริการที่ละเอียดรอบคอบ และใส่ใจทุกรายละเอียด  หากคุณต้องได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว รับรองว่าจะได้เห็นโลกชัดขึ้นต่างจากเดิมแน่นอน  
អាសយដ្ឋាន
Laser Vision International LASIK Center

10/989 Soi Prasertmanukij 33 Nuanchan Buengkum District Bangkok 10230